..........ยินดีต้อนรับทุกคน เข้าสู่เว็บเบเกอรี่..........

การดำเนินธุรกิจ


การดำเนินธุรกิจร้านขนมอบเบเกอรี่


การเงิน/การลงทุน

1.  แหล่งเงินทุน

            ขนาดของการลงทุนในร้านขนมอบเบเกอรี่  สามารถทำได้หลายระดับตั้งแต่ร้านขนาดเล็กที่มีเจ้าของคนเดียวจนถึงร้านที่เป็นแฟรนไชส์ที่มีสาขามากกว่า 10 สาขา  เงินลงทุนอยู่ระหว่าง  50,000 – 500,000 บาทต่อหนึ่งร้านหรือหนึ่งสาขา  ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ร้าน  ทำเลที่ตั้งร้าน  การตกแต่งร้าน  อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตและความหลากหลายของสินค้า

                เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงนัก  ผู้ที่สนใจจะประกอบธุรกิจขนมอบเบเกอรี่ก็สามารถใช้เงินลงทุนเริ่มต้นของตนเองหรือจัดหาเงินทุนจากสถาบันการเงินต่าง ๆ  เช่น  ธนาคาร SMEs,  ธนาคารออมสิน  หรือธนาคารพาณิชย์ทั่วไป  เป็นต้น

2. รายละเอียดการลงทุน

            2.1  ค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุนเริ่มต้นจะแตกต่างกันตามขนาดและลักษณะของกิจการ  สามารถแบ่งได้เป็น

·       ค่าตกแต่งร้าน  เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน  ประมาณร้อยละ 20 – 50 ของเงินลงทุน

·       ค่าเครื่องมือและอุปกรณ์ในการทำขนม  ประมาณร้อยละ 35 – 45 ของเงินลงทุน

·       เงินทุนหมุนเวียน  ประมาณร้อยละ 30 – 45 ของเงินลงทุน  ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบในการทำขนม  เงินเดือนพนักงาน  ค่าน้ำประปา  ค่าไฟ  และค่าวัสดุต่าง ๆ ฯลฯ

ตัวอย่าง  ประมาณการเงินลงทุนเบื้องต้น

รายการ
จำนวนเงิน (บาท)
ค่าตกแต่งอาคารสถานที่ (ขึ้นอยู่กับรูปแบบและขนาดของร้าน)
50,000-100,000
เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้สำนักงาน
 
                โต๊ะ / เก้าอี้ทำงาน
5,000
                ตู้เก็บภาชนะ
5,000
                เครื่องปรับอากาศ
50,000
รายการ
จำนวนเงิน (บาท)
                ตู้เย็น
35,000
                เครื่องโทรศัพท์และโทรสาร
7,500
                เครื่องคิดเลข
1,000
                เฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ
10,000
                                รวม
113,500
ค่าเครื่องมืออุปกรณ์
 
                เครื่องมืออุปกรณ์ทำขนม
38,000
                อื่น ๆ
5,000
                                รวม
156,500
เงินทุนหมุนเวียน
50,000
รวมเงินลงทั้งหมด
256,500-306,500

 

                2.2  ต้นทุนสำหรับกิจการร้านขนมอบเบเกอรี่

                ต้นทุน  หมายถึง  ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้สินค้ามา  ประเภทของค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนสินค้า  สามารถจำแนกได้ดังนี้

            กิจการที่ผลิตสินค้าเอง                         กิจการที่ซื้อมาขายไป

·       ค่าวัตถุดิบ                                                      -  ค่าสินค้าตามราคาในใบเสร็จ

·       ค่าแรงงาน                                                    -  ค่าขนส่ง

·       ค่าโสหุ้ย / ค่าใช้จ่ายในการผลิต

-                        ค่าวัตถุดิบ  เป็นค่าใช้จ่ายหลักของสินค้าในกิจการขนมอบเบเกอรี่  วัตถุดิบของขนม  ได้แก่  แป้ง  เนย  ไข่ นม  น้ำตาล  และส่วนประกอบอื่น ๆ ตามสูตรของขนมแต่ละชนิด

-                        ค่าแรงงาน  ได้แก่  เงินเดือนหรือค่าแรงที่จ่ายให้แก่คนงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิต/การขายขนมโดยตรง  เช่น  พนักงานผสม  พนักงานขายหน้าร้าน  เป็นต้น

-                        โสหุ้ย / ค่าใช้จ่ายในการผลิต  คือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ  ที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตที่ไม่ใช่ค่าวัตถุดิบและค่าแรงงาน  เช่น  ค่าเสื่อมราคาของอุปกรณ์เครื่องมือใช้ในการผลิต  ค่าเช่าอาคาร  ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องมือหรืออาคาร  ค่าน้ำ  ค่าไฟ  ค่าวัสดุสิ้นเปลืองต่าง ๆ  และค่าแรงงานทางอ้อม  ได้แก่  ค่าแรงพนักงานทำความสะอาด  เป็นต้น

ทำเลที่ตั้ง

            ผู้ประกอบการจะต้องกำหนดลักษณะของร้านให้เหมาะสมทั้งขนาดของร้านและสานที่ตั้ง  ซึ่งร้านควรตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เยงกับแหล่งชุมนุมของกลุ่มเป้าหมายหรือบริเวณที่ลูกค้าสามารถเดินทางไปมาได้สะดวก  และเข้าถึงร้านได้ง่าย  มีบริเวณพื้นที่วางขายสินค้าและบรรยากาศภายในร้าน  นอกจากนี้  ความสะอาดของร้านยังเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้าเข้าร้านได้มาก  และหากมีทำในลักษณะขายส่ง  ผู้ประกอบการก็จะต้องพิจารณาว่าจะมีช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างไร  การขนส่งสินค้าไปยังสถานที่จำหน่ายจะทำด้วยวิธีใด  จึงจะสามารถรักษาคุณภาพของสินค้าไว้ได้อย่างสม่ำเสมอและมีต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง  ช่องทางการขายอื่นๆ ได้แก่  การบริการส่งสินค้าถึงบ้าน  รับจัดเลี้ยงนอกสถานที่  ดิสเคานท์สโตร์  ซุปเปอร์มาร์เก็ต  คอนวีเนียนสโตร์  โรงพยาบาล  อาคารสำนักงานต่าง ๆ  และสถานีบริการน้ำมัน

 

สถานที่ประกอบการ

            การดำเนินธุรกิจร้านขนมอบเบเกอรี่ผู้ประกอบต้องคำนึงในเรื่องสถานที่ประกอบการด้วยว่าควรจะเช่าหรือซื้อเป็นของตนเอง  โดยใช้ข้อมูลหลาย ๆ ด้านประกอบการตัดสินใจ  เช่น  ความคล่องตัวหรือความพร้อมในการลงทุน  ผลประกอบการที่คาดว่าจะได้รับและแนวโน้มทางการตลาด  เป็นต้น  หากเช่าต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า  ระยะเวลาในการเช่า  หากซื้อเป็นของตนเองควรคำนึงถึงภาวะดอกเบี้ยในกรณีต้องกู้ยืมมาจากสถาบันการเงินหรือธนาคาร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น